การ คุมกำเนิด ในเดือนแห่งความรักที่ได้กลับมาอีกครั้ง นอกจากความรักที่เรามี และมอบให้กับคนที่เรารักแล้ว เรายังต้องรู้จักที่จะรักตัวเอง ซี่งการเรียนรู้เรื่องการ คุมกำเนิด ก็เป็นหนึ่งในการเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง
บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการ คุมกำเนิด ในแบบต่าง ๆ เพื่อเป็นข้อมูลให้เราสามารถตัดสินใจเลือกใช้การ คุมกำเนิด ที่เหมาะสมกับเรามากที่สุดกันค่ะ
การ คุมกำเนิด นอกจากจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมแล้ว การ คุมกำเนิด บางประเภทยังสามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และลดโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้ โดยการ คุมกำเนิด แบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลักๆ ได้แก่
- การ คุมกำเนิด ถาวรหรือการทำหมัน เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการมีบุตรแล้ว ซึ่งสามารถทำได้ทั้งการตัดท่อนำอสุจิในเพศชายและและการตัดท่อนำไข่ในเพศหญิง
- การ คุมกำเนิด ชั่วคราวเหมาะสำหรับคนที่ยังไม่ต้องการมีบุตรในขณะที่ทำการ คุมกำเนิด แต่สามารถกลับมามีบุตรได้หลังจากยุติการคุมกำเนิด การคุมกำเนิดชั่วคราวมีหลากหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสีย และประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน
ประเภทของการ คุมกำเนิด ชั่วคราว
-
การใช้ถุงยางอนามัย
การใช้ถุงยางอนามัยเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวก สามารถเลือกได้ทั้งถุงยางอนามัยสำหรับเพศชายและเพศหญิง นอกจากการ คุมกำเนิด แล้ว การใช้ถุงยางอนามัยยังสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย
ถุงยางอนามัยมีความแตกต่างกันทั้งในวัสดุที่ใช้ ซึ่งมีทั้งยางธรรมชาติ และยางสังเคราะห์ที่เหมาะสำหรับคนที่แพ้ถุงยาง ใช้แล้วมีอาการผื่นคัน นอกจากนี้ยังแตกต่างกันในขนาดและลักษณะทางกายภาพ เช่น สี กลิ่น แต่ทั้งนี้การใช้ถุงยางอนามัยสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูงถึง 98% เมื่อใช้อย่างถูกวิธี ดังนั้นเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ก่อนใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งต้องตรวจสอบดังนี้
-
เลือกขนาดของถุงยางอนามัยให้เหมาะสม
-
ตรวจสอบวันหมดอายุก่อนใช้งานห้าม ใช้งานถุงยางอนามัยที่หมดอายุแล้ว
-
ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ก่อนใช้งาน ต้องไม่ฉีกขาด ดังนั้นการเก็บรักษาจึงสำคัญ ไม่ควรเก็บในที่ที่ร้อนจัดเช่น ในรถ เป็นต้น
-
สวมและถอดถุงยางอนามัยให้ถูกวิธี โดยไม่ สวมถุงยางอนามัยช้าเกินไป และ ไม่ ถอดหลังจากอวัยวะเพศอ่อนตัว
-
ห้าม ใช้ถุงยางอนามัยซ้ำ
-
การใช้ยาเม็ด คุมกำเนิด
เมื่อดูตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ยาเม็ดคุมกำเนิดมี 2 ประเภท ได้แก่
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ที่ต้องใช้เป็นประจำเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ นอกจากนี้ยังออกฤทธ์ช่วยปรับรอบเดือน ลดอาการปวดประจำเดือน ลดอาการไม่สบายตัวก่อนมีประจำเดือน ที่เรียกว่า PMS ปรับฮอร์โมน จึงนำมาใช้ในการรักษาภาวะเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ หรือ ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst) นอกจากนี้ยาเม็ดคุมกำเนิดบางยี่ห้อยังใช้ในการรักษาภาวะขนดก สิว ผิวมัน ที่เกิดจากการมีฮอร์โมนเพศชายที่มากเกินไป
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมมีส่วนประกอบสำคัญ คือ ฮอร์โมน 2 ชนิด ได้แก่ เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ที่ออกฤทธิ์คุมกำเนิดหลากหลายกลไก ได้แก่ การยับยั้งการตกไข่ ทำให้มูกที่ปากมดลูกข้นเหนียว และปรับสภาวะเยื่อบุมดลูกไม่ให้เหมาะกับการฝังตัวของไข่
วิธีการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ให้รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง ในเวลาเดียวกันทุกวัน
-
โดยถ้าเป็นยาคุมกำเนิดชนิด 21 เม็ด ให้รับประทานติดต่อกัน 21 วัน และหยุดรับประทานยา 7 วัน โดยในช่วงที่หยุดรับประทานยา จะมีประจำเดือนมา และสามารถเริ่มยาแผงถัดไปหลังจากหยุดยาได้ 7 วัน (หรือในวันที่ 8 ที่หยุดรับประทานยา) โดยไม่ต้องสนใจว่า ประจำเดือนจะหมดแล้วหรือไม่
-
การใช้ยาคุมกำเนิดชนิด 28 เม็ด จะมีตัวยา 21 เม็ดและเป็นเม็ดแป้ง 7 เม็ด เหมาะสำหรับผู้ที่มักจะลืมรับประทานยา วิธีรับประทานคือให้รับประทานยาติดต่อกันทุกวัน และขึ้นแผงใหม่ทันที เมื่อรับประทานยาหมด โดยในช่วงเม็ดแป้งจะมีประจำเดือนมา
-
นอกจากนี้ ยังมียาคุมกำเนิดที่มียาฮอร์โมน22 เม็ด และ 24 เม็ด และมีเม็ดแป้ง 6 และ 4 เม็ดตามลำดับ ซึ่งก็มีวิธีการรับประทานยาที่เหมือนกัน คือรับประทานยาติดต่อกันทุกวัน
**สำหรับการเริ่มรับประทานยาคุมกำเนิดแผงแรก ให้เริ่มรับประทานวันที่ 1-5 หลังจากประจำเดือนมาวันแรก และแนะนำให้ใช้การคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัยร่วมด้วย จนกว่าจะใช้ยาหมดแผง**
การลืมทานยาคุมกำเนิด
-
การลืมใช้ยาคุม1 เม็ด ให้รับประทานยาคุม 1 เม็ดทันทีที่นึกได้ และรับประทานยาคุมกำเนิดเม็ดที่เหลือตามปกติ
-
การลืมใช้ยาคุมกำเนิด 2 เม็ด
-
ถ้าเป็น 2 สัปดาห์แรก ให้รับประทานยาคุมกำเนิดครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง นาน 2 วัน หลังจากนั้นให้ใช้วันละ 1 เม็ดจนหมดแผง
-
ถ้าเป็นสัปดาห์ที่ 3 ให้หยุดยา รอประจำเดือนมาแล้วเริ่มยาคุมแผงใหม่ โดยต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยขณะมีเพศสัมพันธ์
-
การลืมใช้ยาคุมกำเนิด 3 เม็ด ให้หยุดยา รอประจำเดือนมาแล้วเริ่มยาคุมแผงใหม่ โดยต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยขณะมีเพศสัมพันธ์
อาการข้างเคียงจากการใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
ผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิด อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ตึงเต้านม น้ำหนักตัวเพิ่ม เลือดออกกระปริบกระปรอย ซึ่งถ้ามีอาการข้างเคียงมาก แนะนำปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อปรับชนิดของยาให้เหมาะสม
ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน
แนะนำให้ใช้เมื่อฉุกเฉินเท่านั้น เช่น ในกรณีถูกข่มขืน ถุงยางอนามัยชำรุด ไม่ควรใช้เป็นประจำเนื่องจากประสิทธิภาพการคุมกำเนิดไม่ดีเท่าการใช้ฮอร์โมนรวม นอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียงมาก ได้แก่ คลื่นไส้อาเจียน ประจำเดือนมาผิดปกติ เลือดออกกระปริบกระปรอย เป็นต้น
3. การใช้ยาฉีดและยาฝัง คุมกำเนิด
เป็นอีกหนึ่งในวิธีที่คุมกำเนิดด้วยการใช้ฮอร์โมน มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูง เนื่องจากลดความเสี่ยงในการลืมทานยา ซึ่งผู้ที่สนใจการคุมกำเนิดวิธีนี้สามารถปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเพิ่มเติม
4. การใช้ห่วง คุมกำเนิด
คือ การใช้อุปกรณ์ใส่ไปที่โพรงมดลูก ทำให้ไข่ไม่สามารถฝังตัวได้ ห่วงคุมกำเนิดบางชนิดมีผสมทองแดงที่ช่วยฆ่าเชื้ออสุจิ หรือผสมฮอร์โมนที่มีกลไลเพิ่มเติมในการยับยั้งการตกไข่ และทำให้มูกที่ปากมดลูกข้นเหนียว ผู้ที่สนใจการคุมกำเนิดวิธีนี้ สามารถปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเพิ่มเติม
หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่อง การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ ดีต่อสุขภาพ หรือเรื่องสุขภาพและการใช้ยา สามารถปรึกษากับเภสัชกรได้ที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ
เอกสารอ้างอิง
- Condoms, Your contraception guide, NHS.UK. 12 October 2020 Retrieved from https://www.nhs.uk/conditions/contraception/male-condoms
- แพทย์หญิงธันยารัตน์ วงศวนานุรักษ์. การคุมกำเนิด (ตอนที่1). Siriraj E-Public Library. Faculty of Medicine Siriraj Hospital. Retrieved from https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=575
- Reproductive Health. CDC. Retrieved from https://www.cdc.gov/reproductivehealth/contraception/