ดูแลตัวเองช่วงโควิด-19 ฉบับผู้ป่วย โรคเบาหวาน

ในระหว่างที่โรคโควิด 19 ยังคงระบาด แต่ปรับระดับความรุนแรงของโรค เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง สำหรับคนทั่วไปที่ต้องหมั่นดูแลตัวเองแล้วนั้น ผู้ป่วย โรคเบาหวาน ก็ต้องยิ่งหมั่นดูแลตัวเองเช่นกัน


เพราะจากผลสำรวจในประเทศจีนพบว่าผู้สูงอายุเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 และผู้ที่มีโรคประจำตัว จะมีความเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคนี้สูงกว่าคนทั่วไป ซึ่งอัตราการเสียชีวิตของผู้สูงอายุสูงถึง 15% และอัตราการเสียชีวิตของผู้ที่มีโรคประจำตัว สูงถึง 10.5%

และจากผลสำรวจจากประเทศอิตาลี มีผู้เสียชีวิตกว่า 99% ทั่วประเทศ เป็นคนที่มีโรคประจำตัว และผู้เสียชีวิตเกือบครึ่งหนึ่งเป็นคนที่มีโรคประจำตัวอย่างน้อย  3 โรค โดยอายุเฉลี่ยของผู้ที่เสียชีวิตในประเทศอิตาลี อยู่ที่ 79.5 ปี

นี่จึงเป็นหลักสำคัญที่ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวด้วยจำเป็นจะต้องดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของตนเองอย่างเคร่งครัด วันนี้เราจึงขอยกตัวอย่างโรคประจำตัวที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 มา 1 โรคนั่นก็คือ “โรคเบาหวาน” ว่าสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วย โรคเบาหวาน นี้เสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เกิดจากอะไร และวิธีดูแลป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัสมีอะไรบ้าง

โรคเบาหวาน

ผู้ป่วย โรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 และ 2 รวมถึงผู้ป่วย โรคเบาหวาน ขณะตั้งครรภ์จะควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี และมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงและผู้ป่วยโรคนี้มักจะมีโรคแทรกซ้อนร่วมด้วย ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง และติดเชื้อได้ง่าย

ผู้ป่วย โรคเบาหวาน จะเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ได้มากกว่าคนทั่วไป จึงจำเป็นจะต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด เพราะเนื่องด้วยมีภูมิต้านทานที่ต่ำ อย่างเช่นการขาดวิตามินซี  เพราะการขาดวิตามินซีจะก่อให้เกิดอาการแทรกซ้อนมากยิ่งขึ้น

เนื่องจากวิตามินซี เป็นตัวช่วยให้ร่างกายสามารถจัดหาวิตามินอีซึ่งจำเป็นสำหรับการป้องกันการทำลายเนื้อเยื่อจากฟรี แรติคัลส์ ออกซิเจนนอกจากนั้นวิตามินซี ยังช่วยในการสร้างคอลลาเจน ที่เป็นโปรตีนจำเป็นของร่างกาย ผู้ป่วยเบาหวานจึงมีคอลลาเจนไม่เพียงพอ มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด และแผลที่หายยากเพราะขาดคอลลาเจน


วิธีดูแลตัวเองของผู้ป่วย โรคเบาหวาน ให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19

  1. ล้างมือสม่ำเสมอ

  2. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า

  3. ทำความสะอาดวัตถุ หรือบริเวณที่ถูกสัมผัสบ่อย ๆ 

  4. เวลาไอ หรือจาม ควรนำต้นแขน หรือข้อพับแขนมาปิดบริเวณปาก และจมูก

  5. หลีกหลี่ยงการติดต่อกับผู้ป่วยที่มีอาการเสี่ยงต่อโรคไวรัสนี้

  6. คอยแนะนำ หรือพูดคุยกับคนในครอบครัวถึงการป้องกัน หรือการหลีกเลี่ยงติดเชื้อ

  7. หากรู้สึกว่าตัวเองมีอาการ สงสัยว่าป่วย หรือหากมีอาการหนัก แจ้ง กรมควบคุมโรค 1422 หรือสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ 1669

นอกจากนั้นผู้ป่วย โรคเบาหวาน ยังสามารถทานวิตามินซี เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ง่ายจากผัก และผลไม้ต่าง ๆ เช่น

  1. แอปเปิ้ลเขียว มีเส้นใยชนิดละลายน้ำในปริมาณสูง ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด

  2. ฟักทอง มีน้ำตาลโพลีแซ็กคาไรด์ที่อยู่กับโปรตีนภายในฟักทอง มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด

  3. ตำลึง ทีมวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ค้นพบว่าตำลึงเป็นสมุนไพรที่ใช้ลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  4. มะระ พบสารชาแรนทินที่มีฤทธิ์ต้านเบาหวาน


นอกจากนั้นยังมีอาหารเสริมที่ยังช่วยสร้างภูมิต้านทานให้กับผู้ป่วยโรคเบาหวานนั่นก็คือวิตามินซี โดยปริมาณที่แนะนำสำหรับการทานวิตามินซีเพื่อสร้างภูมิต้านทานควรทานทาน 1,000 – 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน
หากทานมากเกินกำหนดอาจเสี่ยงโรคอื่นๆได้
นอกจากนั้นวิตามินซียังเป็นส่วนช่วยทำให้มีการสร้างวิตามินอี และคอลลาเจนที่จะมาช่วยเสริมให้กับผู้ป่วยโรคเบาหวานมีภูมิต้านทานที่แข็งแรงขึ้น


หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่องโรคเบาหวาน และการใช้ยา สามารถปรึกษากับเภสัชกรได้ที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ

All Pharma See
  1. Allwell Healthcare. 2022. ระวัง! ผู้สูงอายุเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19และเสียชีวิตง่ายกว่าวัยอื่นๆ. [online] Available at: <https://allwellhealthcare.com/elderly-covid-19/> [Accessed 18 October 2022].
  2. Bumrungrad.com. 2022. 8 กลุ่มผู้ป่วยที่หากติด Covid-19 เสี่ยงมีอาการรุนแรง | โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์. [online] Available at: <https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/april-2020/covid-19-there-are-eight-risk-groups> [Accessed 18 October 2022].
  3. ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน. 2022. ความสัมพันธ์ระหว่างวิตามินซีและโรคเบาหวาน. [online] Available at: <https://www.doctor.or.th/article/detail/6308> [Accessed 18 October 2022].
  4. 2022. [online] Available at: <https://www.thaihealth.or.th/Content/47790-%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%99.html> [Accessed 18 October 2022].
  5. Pharmacy.mahidol.ac.th. 2022. อยากทราบว่าทานวิตามินซีวันละกี่มิลลิกรัมถึงจะไม่อันตรายค่ะ แล้วแบ่งทานยังไง กินเวลาไหยถึงได้ผลที่สุด แล้ววิตามินซีช่วยให้ขาวจริงหรือเปล่า ขอบคุณค่ะ. [online] Available at: <https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/qa_full.php?id=3493> [Accessed 18 October 2022].

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง