ตกขาวสีเหลือง เกิดจากอะไร แบบไหนอันตรายที่ผู้หญิงต้องระวัง

ตกขาวสีเหลือง เกิดจากอะไร แบบไหนอันตราย

รู้หรือไม่ว่า การที่มี “ตกขาวสีเหลือง” อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติภายในช่องคลอดของคุณได้ ทั้งนี้ควรพิจารณากับปัจจัย หรืออาการแสดงอื่น ๆ ร่วมด้วย บทความนี้ ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส จึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ อาการ ตกขาวสีเหลือง เกิดจากอะไร ? และตกขาวแบบไหนอันตราย ที่ผู้หญิงต้องระวังมาฝากกันค่ะ

 

ตกขาวสีเหลือง คืออะไร ?

ลักษณะของ ตกขาวสีเหลือง หากมีสีเหลืองอ่อน หรือสีครีมอ่อน ๆ ไม่มีกลิ่น และไม่แสบ ไม่คัน ถือว่าเป็นลักษณะทั่วไปของตกขาว ที่อาจเกิดขึ้นได้ตามปกติ เนื่องจาก ตกขาว (Vaginal Discharge) คือ สารคัดหลั่งที่ขับออกมาทางช่องคลอด ไม่ใช่เลือด หรือประจำเดือน มีลักษณะคล้ายแป้งเปียกสีขาว หรือเป็นเมือกใสอาจเจือสีขาวขุ่นเล็กน้อย ไม่มีกลิ่น ไม่ก่อให้เกิดการคัน โดยจะมีค่าความเป็นกรดอ่อน ๆ อยู่ที่ประมาณ 4.5 pH ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้หญิงที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัน โดยตกขาวไม่จำเป็นต้องเป็นสีขาวเสมอไป อาจมีสีที่ต่างออกไปได้ตามระดับการหลั่งของฮอร์โมนเอสโตรเจนของแต่ละบุคคล

หากมีสีผิดปกติอย่างสีเขียว เทา น้ำตาลเข้ม หรือ ตกขาวมีสีเหลืองเข้ม หรือสีเหลืองใส ร่วมกับอาการไม่พึงประสงค์อย่าง อาการแสบ คันปากช่องคลอด มีกลิ่นเหม็นร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณของร่างกายที่เตือนว่า ช่องคลอดของคุณอาจมีปัญหาอยู่ได้นั่นเอง

 

สาเหตุของการเกิด ตกขาวสีเหลือง

ตกขาวสีเหลือง (Yellow Vaginal Discharge) นั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยตกขาวสีเหลืองที่ไม่มีอันตรายอาจเกิดได้จากการที่ใกล้จะมีประจำเดือน รวมถึงการทานอาหารที่เปลี่ยนไปก็อาจส่งผลต่อสีของตกขาวได้เช่นกัน โดยลักษณะของตกขาวสีเหลือง ที่มีความผิดปกติอาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุดังต่อไปนี้

 

สาเหตุของการเกิด ตกขาวสีเหลือง

 

1. โรคพยาธิในช่องคลอด (Trichomoniasis)

เป็นโรคที่ติดทางการมีเพศสัมพันธ์จากการติดเชื้อโปรโตซัวชื่อ Trichomonas Vaginalis

ลักษณะสำคัญของอาการนี้ คือ ตกขาวเยอะผิดปกติ อาจเป็นสีเหลือง หรือสีเขียว มีฟอง และส่งกลิ่นคล้ายคาวปลา มีเลือดไหลออกจากช่องคลอด นอกจากนี้ยังมีอาการ บวม แดง คัน และ อาจปัสสาวะแสบขัด หรือเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์

2. เป็นโรคหนองใน หรือหนองในเทียม (Gonorrhea or Chlamydia)

โรคหนองใน หรือหนองในเทียมในผู้หญิง มักไม่ค่อยแสดงอาการที่ชัดเจน ซึ่งหากมีอาการจะมีลักษณะสำคัญของอาการหนองใน และหนองในเทียมในผู้หญิง คือ ตกขาวสีเหลือง หรือเขียว เป็นเมือก ๆ ผสมหนอง มีเลือดออกจากช่องคลอด อาจมีอาการแสบ บวม คัน และ ปวดท้องน้อย เป็นต้น

3. ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ (Pelvic Inflammatory Disease: PID)

เป็นภาวะที่เกิดจากการติดเชื้อบริเวณระบบสืบพันธุ์เพศหญิงส่วนบน เช่น ท่อนำไข่ รังไข่ มดลูก ซึ่งอาจเกิดได้จากการติดเชื้อผ่านทางเพศสัมพันธ์ และเกิดได้จากเชื้อหลายชนิด โดยหนึ่งในนั้นอาจเกิดจากการเป็นโรคหนองใน หรือหนองในเทียมที่ไม่ได้รับการรักษา ทำให้เชื้ออาจแพร่กระจายไปถึงบริเวณระบบสืบพันธุ์เพศหญิงส่วนบน ได้นั่นเอง

ลักษณะสำคัญ คือ การมีตกขาวผิดปกติ หรือมีลักษณะเหมือนหนอง มีอาการปวดท้องน้อย มีไข้สูง คลื่นไส้อาจเจ็บลึก ๆ ขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือ อาจมีเลือดออกบริเวณช่องคลอด

4. มีการติดเชื้อแบคทีเรียภายในช่องคลอด (Bacterial Vaginosis)

เกิดจากการขาดสมดุลบริเวณช่องคลอด เนื่องจากแบคทีเรียเจ้าถิ่นอย่างแลคโตบาซิลไล (Latobacilli) ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียก่อโรคลดจำนวนลง ส่งผลให้จำนวนแบคทีเรียก่อโรคบริเวณช่องคลอดเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น

ลักษณะสำคัญของการติดเชื้อแบคทีเรีย คือ ตกขาวจะมีสีเหลือง หรือขาวเนียนปนเทาอ่อน มีกลิ่นเหม็นคาวคล้ายปลาเค็ม และอาจมีการระคายเคืองบริเวณช่องคลอด และเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์

5. ปากมดลูกอักเสบ (Cervicitis)

อาการปากมดลูกอักเสบส่วนใหญ่มักเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งกลุ่มโรคติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ที่อาจก่อให้เกิดอาการปากมดลูกอักเสบได้แก่ โรคพยาธิในช่องคลอด, ไวรัสเริม, เชื้อคลาไมเดีย (Chlamydia Trachomatis) อันเป็นสาเหตุของโรคหนองใน เป็นต้น

ลักษณะสำคัญคือ ตกขาวอาจเป็นสีขาว สีเหลืองปนขาว และสีเหลืองอมเขียว มีอาการเจ็บขณะปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย ปวดช่องคลอด และท้องน้อย เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงอาจมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์

 

อาการแสดงเมื่อตกขาวกลายเป็นสีเหลือง

อาการแสดงเมื่อเกิด ตกขาวสีเหลือง

อาการแสดงเมื่อเกิดตกขาวสีเหลืองที่ผิดปกติจะมีลักษณะ ดังนี้

  • ตกขาวมีสีเหลืองเข้ม หรือสีเหลืองใส
  • มีกลิ่นเหม็น
  • มีตกขาวมากกว่าผิดปกติ
  • มีอาการเจ็บ บวม คันบริเวณช่องคลอด
  • ปวดแสบขณะปัสสาวะ
  • และอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป

 

การวินิจฉัย และการรักษาอาการตกขาวที่ผิดปกติ

แพทย์จะทำรักษาตามอาการแสดง หากเป็นการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์แพทย์จะให้ยาผู้ป่วย และคู่นอน แต่หากเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียทั่วไปแพทย์จะจ่ายยาปฏิชีวนะ หรือ ยาฆ่าเชื้อให้ เป็นรายกรณี

ในกรณีที่มีตกขาวผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป เพราะเชื้อโรคบางชนิดหากไม่รีบรักษาอาจลุกลามจนกลายเป็นโรคร้ายที่รักษาได้ยากต่อไปได้นั่นเอง

 

ดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อป้องกันการเกิด ตกขาวสีเหลือง

เนื่องจากการเกิดตกขาวสีเหลืองสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากทางเพศสัมพันธ์ และจากการที่แบคทีเรียบริเวณช่องคลอดไม่สมดุล จึงแบ่งวิธีการดูแลออกเป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ ดังนี้

1. การป้องกันจากการติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

สามารถป้องกันได้ด้วยการให้คู่นอนของคุณ สวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์ และไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนหลายคนเนื่องจากจะเพิ่มความเสี่ยงในการได้รับเชื้อผ่านทางเพศสัมพันธ์แบบไม่รู้ตัว

2. การป้องกัน ตกขาวสีเหลือง จากปัจจัยภายในร่างกาย

สาเหตุของการที่เชื้อแบคทีเรียบริเวณช่องคลอดไม่สมดุลอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เพียงหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจส่งผลให้ เชื้อแบคทีเรียบริเวณช่องคลอดไม่สมดุล เช่น หลีกเลี่ยงการสวนล้าง หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม เช่น สบู่ ในการล้างช่องคลอด, งดการสูบบุหรี่ หรือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึง ลดปริมาณการทานอาหารหมักดอง เป็นต้น

นอกจากนี้การตรวจภายในเป็นประจำทุกปีจะช่วยให้เรารับรู้ถึงอาการผิดปกติภายในช่องคลอดได้ไว และสามารถรักษาได้ทัน ส่งผลดีกว่าการรอให้เกิดสัญญาณบอกโรคแล้วจึงค่อยทำการรักษานั่นเอง

 

ตกขาวสีเหลือง เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์

หากมีอาการตกขาวสีเหลือง อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกาย มีความผิดปกติบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ หากมีอาการดังกล่าว สามารถเข้าพบแพทย์ได้ทุกเมื่อ เนื่องจากหากปล่อยไว้นานอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

 

เมื่อมีอาการ ตกขาวสีเหลือง สามารถพบแพทย์ได้ทุกเมื่อ

 

นอกจากนี้ยังมีสัญญาณอันตราย ที่ควรรีบไปพบแพทย์ ดังนี้

  • มีไข้
  • หนาวสั่น
  • เหนื่อยล้า
  • อ่อนเพลีย
  • คลื่นไส้ อาเจียน

อาการข้างต้นอาจบ่งชี้ถึงเกิดการติดเชื้อที่ลุกลาม ควรรีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที เนื่องจากโดยส่วนใหญ่แล้วอาการตกขาวสีเหลืองมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย จึงต้องให้ยาปฏิชีวินะในการรักษาตามการวินิจฉัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่อไป

 

สรุปเกี่ยวกับอาการ ตกขาวสีเหลือง

ตกขาวสีเหลือง ที่มีอาการคัน มีกลิ่นเหม็น เป็นอาการผิดปกติที่ร่างกายส่งสัญญาณเตือนว่าช่องคลอดอาจมีการติดเชื้อบริเวณช่องคลอด โดยผู้ป่วยสามารถพบแพทย์ได้ทันทีที่สังเกตได้ถึงความผิดปกติ ไม่ต้องรอให้อาการหนัก และหากมีอาการไม่พึงประสงค์ร่วมด้วย อย่างอาการไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อทำการรักษาต่อไป

 

ตกขาวสีเหลือง ถือเป็นกลุ่มอาการตกขาวผิดปกติ หนึ่งในกลุ่ม 16 อาการเจ็บป่วยเล็กน้อยสามารถเข้ารับยาได้ แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ตามร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ โดยสำหรับผู้ที่มี สิทธิบัตรทอง หรือ หลักประกันสุขภาพ 30 บาท ก็สามารถขอเข้ารับสิทธิ์ได้แล้วที่ ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส กว่า 400 สาขา ทั่วประเทศ

 

ที่มา:

YELLOW VAGINAL DISCHARGE: CAUSES, TREATMENTS, AND CONCERNS by KHealth

What Causes Yellow Discharge Before Your Period? By Healthline Media

สีของตกขาวบอกโรคได้อย่างไร จาก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

ตกขาว ภาวะที่คุณผู้หญิงไม่ควรมองข้าม จาก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

“โรคพยาธิในช่องคลอด” ภัยเงียบที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า จาก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี

ตกขาว จาก รศ.พญ.จารุวรรณ แซ่เต็ง ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

โรคติดเชื้อระบบสืบพันธุ์น่ารู้: โรคหนองใน จาก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ (Pelvic inflammatory disease/ PID) จาก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

โรคช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย จาก ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

 

อัปเดตและติดตามสาระสุขภาพดี ๆ จาก ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ได้ที่

LINE: @eXtaPlus (https://bit.ly/eXtaplus)

หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่อง สุขภาพและการใช้ยา สามารถปรึกษากับเภสัชกรได้ที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ

All Pharma See

บทความที่เกี่ยวข้อง