‘มือชา’ อาจเป็นสัญญาณของโรคพังผืดทับเส้นประสาท

ช่วงเวลายาวนานในการทำงานของหนุ่มสาวออฟฟิศ ‘มือ’ ถือเป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยได้ใส่ใจในระหว่างที่ทำงานมากนัก จนอาจเกิดโรคพังผืดกดทับเส้นประสาทข้อมือได้ ซึ่งหากมีอาการต่อไปนี้ควรพบแพทย์ เพราะหากคุณปล่อยอาการไปเรื่อยๆ อาจต้องพึ่งมีดหมอเลยทีเดียว

สาเหตุของโรค

  • ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ข้อมือและมือ ในลักษณะซ้ำๆ กัน เป็นเวลานานๆ เส้นประสาทบริเวณข้อมือถูกกดทับ และมีพังผืดหนาตัวขึ้นที่บริเวณข้อมือด้านฝ่ามือ
  • เกิดอุบัติเหตุ เช่น กระดูกข้อมือหักกดทับในโพรงข้อมือ

ลักษณะอาการ

  • อาการเริ่มแรกจะมีอาการชาทั่วฝ่ามือเหมือนเหน็บกิน
  • ต่อมาจะเริ่มชาตามนิ้ว พร้อมกับอาการปวด ที่ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ
  • มักปวดมากในเวลากลางคืน และเวลาใช้มือ เช่น หวีผม กวาดบ้าน เป็นต้น
  • ปล่อยทิ้งไว้นานกล้ามเนื้อฝ่ามือก็จะลีบลง และมืออ่อนแอมีอาการผิดรูปหรือพิการได้

การรักษา

  • แพทย์จะตรวจการนำคลื่นไฟฟ้าของเส้นประสาทข้อมือ ร่วมกับเอ็กซเรย์กระดูก
  • งดการใช้มือข้างนั้น โดยหลีกเลี่ยงการยกของหนัก  หรือการใช้มือในลักษณะซ้ำๆ
  • ใช้หมอนรองข้อมือเวลาทำงาน หรือนอน ร่วมกับการรับประทานยาแก้อักเสบ
  • หากรับประทานยาแล้วไม่ดีขึ้นต้องฉีดยาเพื่อลดการอักเสบในโพรงข้อมือ โดยส่วนมากแพทย์ ไม่แนะนำให้ฉีดเกิน 3 ครั้ง เนื่องจากมีสารสเตียรอยด์ ซึ่งมีผลเสียหากฉีดมากเกินไป
  • การรักษาสุดท้ายคือการผ่าตัด โดยแพทย์จะผ่าพังผืดให้ขาดออก เพื่อลดการกดทับของเส้นประสาท

สำหรับหนุ่มสาวที่นั่งทำงานท่าเดิมๆ ใช้มือมากๆ หรือยกของหนักบ่อยๆ ควรออกกำลังกายข้อมือ และหลีกเลี่ยงการยกของหนักจะดีที่สุด เพื่อถนอมมือให้อยู่กับเราไปนานๆ นะคะ

 

ที่มา thaihealth