ใช้ชีวิตหนักแบบนี้ ‘ไต’ ยังดีอยู่หรือเปล่า

ใช้ชีวิตหนักแบบนี้ ‘ไต’ ยังดีอยู่หรือเปล่า

ปัจจุบันโรคไตถือเป็นภัยเงียบ สาเหตุหนึ่งมาจากการทานอาหารที่มีรสเค็ม ดังนั้นถ้าหากต้องการป้องกันโรคไตควรเริ่มต้นจากการปรับพฤติกรรมการทานอาหารก่อนเป็นอันดับแรก

อาหารยอดนิยมที่มีความเสี่ยงต่อโรคไต

  • อาหารญี่ปุ่นที่ต้องใช้น้ำจิ้ม อาทิ ซูชิ ชาบู
  • อาหารเกาหลีที่ต้องใช้น้ำจิ้ม อาทิ ปิ้งย่าง
  • หมูกระทะ
  • แฮม เบคอน
  • อาหารที่มีส่วนประกอบของชีส

และนอกจากอาหารที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคไตแล้ว ยังมีปัจจัยเสี่ยงของโรคไตเรื้อรัง ดังนี้

  • โรคเบาหวาน
  • ความดันโลหิตสูง
  • ประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคไตเรื้อรัง
  • อายุมาก
  • น้ำหนักเกินหรืออ้วน
  • สูบบุหรี่

โดยปกติแล้วร่างกายคนเราจะมีไต 2 ข้าง ทำหน้าที่กรองของเสียในเลือด และควบคุมจำนวนน้ำ เกลือแร่ และสารต่างๆ ในร่างกายให้สมดุล โดยหากไตเสื่อมสภาพลงเหลือเพียง 25% จะแสดงอาการของโรค ดังนี้

  • ปัสสาวะบ่อยหรือขัด
  • ปัสสาวะสีเข้มแบบสีน้ำล้างเนื้อ
  • บวมที่หน้า เท้า
  • ปวดหลัง ปวดเอว
  • เบื่ออาหาร คลื่นไส้ และความดันโลหิตสูง

หากพบอาการดังกล่าวให้รีบพบแพทย์ โดยแพทย์จะทำการวินิจฉัยจากการตรวจปัสสาวะเพื่อหาโปรตีนที่รั่วออกมา

การดูแลสุขภาพไต

  • รับประทานยาเพื่อควบคุมโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
  • ลดน้ำหนัก และหมั่นออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที
  • หยุดสูบบุหรี่หากคุณยังสูบอยู่
  • หลีกเลี่ยงการรับประทนยาแก้ปวดที่ซื้อเองตามร้านยา
  • เปลี่ยนการรับประทานเกลือและโปรตีนให้น้อยลง
  • จำกัดการดื่มเบียร์ ไวน์ และสุรา

นอกจากการดูแลสุขภาพร่างกายที่ดีแล้ว เรายังต้องหมั่นตรวจสุขภาพทุกปี เพื่อเช็คสภาพร่างกายของตัวเองว่าอยู่ในสภาพที่แข็งแรงจริงหรือไม่ด้วยนะคะ

ที่มา thaihealth