ยาคุมฉุกเฉิน กินอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่ตั้งครรภ์?

ยาคุมฉุกเฉิน

ยาคุมฉุกเฉิน (Emergency Contraceptive Pills, Morning-After Pills) คือ ยาที่ใช้เพื่อป้องการการตั้งครรภ์ หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน หรือในสถานการณ์ที่เกิดข้อผิดพลาดจากการคุมกำเนิดประเภทอื่นทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ จึงถูกมักถูกใช้ในกรณีดังกล่าว เช่น ถุงยางอนามัยแตก ห่วงอนามัยหลุด หรือลืมรับประทานยาคุมกำเนิดเกิน 3 วัน เป็นต้น

ซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญ คือ ฮอร์โมน levonorgestrel ในขนาดสูง ที่ช่วยยับยั้งหรือชะลอการตกไข่ในเพศหญิง จึงลดโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ ซึ่ง ยาคุมฉุกเฉิน ในท้องตลาดมีจำหน่ายอยู่หลากหลายยี่ห้อ ซึ่งมีความแรงต่อเม็ดแตกต่างกัน จึงทำให้มีวิธีใช้แตกต่างกัน ดังนี้

  • ชนิด 1 เม็ดต่อกล่อง มียา levonorgestrel 1.5 มิลลิกรัมต่อเม็ด รับประทาน 1 เม็ดครั้งเดียวหลังจากมีเพศสัมพันธ์ทันที หรือไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์

  • ชนิด 2 เม็ดต่อกล่อง มียา levonorgestrel 0.75 มิลลิกรัมต่อเม็ด รับประทาน 1 เม็ดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ทันที หรือไม่เกิน 72 ชั่วโมง และเม็ดที่สองรับประทานหลังจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมง

ประสิทธิภาพของ ยาคุมฉุกเฉิน จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการรับประทานยาเม็ดแรก โดยถ้ารับประทานยาหลังมีเพศสัมพันธ์ทันที จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 90% และประสิทธิภาพในการป้องกันจะลดลงเรื่อยๆ จนไม่สามารถป้องกันได้

หรือหากทานยาเม็ดแรกช้าเกิน 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันลดลงเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ความอ้วนยังส่งผลลดประสิทธิภาพของยา โดยผู้หญิงที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) เกิน 30 จะมีโอกาสตั้งครรภ์สูงกว่า


อาการข้างเคียงจากการใช้ ยาคุมฉุกเฉิน

อาการไม่พึงประสงค์ที่สามารถพบได้บ่อย ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งจะพบมากขึ้นเมื่อใช้ ยาคุมฉุกเฉิน ชนิดรับประทานเม็ดเดียวเนื่องจากยามีความแรงมาก อาการข้างเคียงอื่นๆ ที่พบบ่อย ได้แก่ ประจำเดือนมาผิดปกติ โดยมากระปริบกระปรอยหรือมามากกว่าปกติ ประจำเดือนเลื่อน ปวดท้องน้อย ปวดเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย ไม่สบายตัว ตึงเต้านม

นอกจากนี้การรับประทาน ยาคุมฉุกเฉิน ที่มากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติที่รังไข่ เยื่อบุมดลูก และเพิ่มความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้


คำแนะนำในการใช้ ยาคุมฉุกเฉิน และการคุมกำเนิด

ควรใช้เมื่อฉุกเฉิน ไม่ ควรใช้เป็นประจำ หรือใช้ทดแทนยาเม็ดคุมกำเนิดเนื่องจากประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ต่ำกว่า และเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียงได้มาก

โดยรับประทานได้ไม่เกิน 1 ครั้ง (1 กล่อง) ต่อสัปดาห์ และไม่เกิน 2 ครั้งต่อเดือน และใช้สำหรับผู้หญิงเท่านั้น

ถ้ามีเพศสัมพันธ์ซ้ำหลังจากใช้ยาเกิน 24 ชั่วโมง มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์

หรือหากทาน ยาคุมฉุกเฉิน ซ้ำจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียง และลดประสิทธิภาพของยา ดังนั้นควรใช้วิธีการคุมกำเนิดแบบอื่น เช่น การใช้ถุงยางอนามัยแทน

ทั้งนี้ การใช้ ยาคุมฉุกเฉิน ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ต้องใช้ถุงยางอนามัยเท่านั้น


ถ้าต้องการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบรับประทานเป็นประจำ สามารถเริ่มทานได้ทันทีหลังจากใช้ยาคุมฉุกเฉิน และควรใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 14 วันแรกหลังเริ่มยาเพื่อรอให้ยาเม็ดคุมกำเนิดออกฤทธิ์


หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่อง ยาและการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ ดีต่อสุขภาพ ดีต่อรูปร่าง ดีต่อผิวพรรณ สามารถปรึกษากับเภสัชกรได้ที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ

All Pharma See

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้อสงสัยโควิด ความรู้ด้านสุขภาพ สินค้าสุขภาพ สูงวัย ยังเก๋า

หยุดยาวนี้อุ่นใจไปกับเอ็กซ์ต้า เที่ยวภาคไหน ต้องเตรียมอะไรไปบ้าง

เที่ยวภาคไหน ต้

ข้อสงสัยโควิด

อาการไอแบบไหน ที่ใช่โควิด

ไอค๊อกไอแค๊ก นี

ข้อสงสัยโควิด ยาและอาหารเสริม สุขภาพแต่ละช่วงวัย สูงวัย ยังเก๋า โภชนาการ

อาหารทางการแพทย์ กับ ผู้ป่วย Long Covid

อาหารทางการแพทย

ข้อสงสัยโควิด สุขภาพแต่ละช่วงวัย

วิธีเตรียมพร้อมก่อนวิ่งมาราธอน

สิ่งแรกที่ควรระ

ข้อสงสัยโควิด สุขภาพแต่ละช่วงวัย

วิธี เลิกบุหรี่ ด้วยตัวเองง่ายๆ ให้เห็นผล

วันที่ 31 พฤษภา