ไม่ได้กินอาหารที่แปลกไป แต่ทำไม ท้องเสีย

ท้องเสีย

อาการ ท้องเสีย ที่หลายๆ คนอาจสงสัย ว่าทำไมเรากินอาหารแบบเดิมทุกวัน แต่มาวันหนึ่งเกิดได้ ที่มาของอาการคืออะไร? แล้วเราจะดูแลรักษาอย่างไรวันนี้เภสัชกรมีคำตอบค่ะ

ท้องเสีย หรือโรคอุจจาระร่วง (diarrhea) คือ การถ่ายอุจจาระที่มีลักษณะเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน หรือการถ่ายอุจจาระที่เป็นน้ำ มีมูกเลือดปนมากกว่า 1 ครั้ง ก็จัดว่าเป็นอาการ ท้องเสีย ซึ่งนอกจากอุจจาระที่เหลวแล้ว ผู้ที่มีโรคอุจจาระร่วงอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดบิดเกร็งท้อง หรือมีไข้


เมื่อมีอาการ ท้องเสีย ภาวะขาดน้ำและสูญเสียเกลือแร่คือปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้เสียชีวิตได้” โดยภาวะขาดน้ำสังเกตได้จากอาการกระหายน้ำมาก ปัสสาวะน้อย มีสีเหลืองเข้มจัด ปากแห้ง ลิ้นแห้ง ผิวแห้ง และเมื่อมีภาวะขาดน้ำรุนแรงจะทำให้มีอาการวิงเวียน มึนงง กระสับกระส่ายและอาจทำให้เกิดภาวะช็อคได้


สาเหตุของโรคอุจจาระร่วง

ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่

  • การติดเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อโปรโตซัว เชื้ออะมีบา หรือแม้กระทั่งเชื้อไวรัส โดยจะมีอาการถ่ายเหลว มีไข้ อาจมีมีมูกเลือดปนมากับอุจจาระที่มีกลิ่นเหม็นผิดปกติคล้ายหัวกุ้งเน่า

  • อาหารเป็นพิษ จากการที่รับประทานอาหารที่ปนเปื้อนสารพิษ โดยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ร่วมกับมีอาการถ่ายเหลว

  • การที่ไม่สามารถย่อยอาหารบางชนิดได้ เช่น คนที่ไม่สามารถย่อยแลคโตสที่อยู่ในนมวัว จึงทำให้มีอาการถ่ายเหลวเมื่อดื่มนม

  • การรับประทานอาหารบางประเภท เช่น สารทดแทนความหวานที่มีในเครื่องดื่มหรืออาหารต่างๆ

  • การรับประทานยาบางประเภท เช่น ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียชนิดออกฤทธิ์กว้าง ที่จะไปฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ช่วยปรับสมดุลทำให้มีอาการ ท้องเสีย ได้

  • การทำงานของระบบทางเดินอาหารและลำไส้ที่ผิดปกติ


การป้องกัน

การเลือกรับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัย เป็นปัจจัยสำคัญที่จะป้องกันไม่ให้เกิดอาการ ท้องเสีย โดยควรเลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ล้างผักและผลไม้สดให้สะอาดก่อนรับประทาน หลีกเลี่ยงการทานเนื้อสัตว์ดิบ ของหมักดอง รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนมในกรณีที่ไม่สามารถย่อยแลคโตสในนมได้

นอกจากนี้การล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง ก็สามารถป้องกันการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุได้


การปฏิบัติตัวเมื่อมีอาการ

  1. จิบเกลือแร่บ่อยๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ โดยต้องเลือกรับประทานเกลือแร่ที่เหมาะสำหรับอาการ ท้องเสีย โดยเฉพาะ เนื่องจากถ้าใช้เกลือแร่สำหรับออกกำลังกายที่มีปริมาณน้ำตาลที่มาก หรือ การดื่มครั้งละมากๆ อาจจะทำให้อาการแย่ลงได้เช่นกัน

  2. รับประทานผงถ่าน หรือยาที่ช่วยดูดซับสารพิษและน้ำในลำไส้ ที่จะทำให้อุจจาระมีลักษณะแข็งขึ้น ช่วยบรรเทาอาการได้

  3. ถ้ามีอาการไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดบิดเกร็งท้อง อ่อนเพลียมาก หรือมีมูกเลือดปนมากับอุจจาระ ให้รีบปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อที่จะได้เลือกจ่ายยาที่เหมาะสมกับอาการ


 

อ่านบทความจากเภสัชกรเพิ่มเติม

 

ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพอีกมากมาย และสามารถสอบถามทุกเรื่องเกี่ยวสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่ ร้านยาเอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาใกล้บ้าน สะดวกยิ่งกว่านั้น ขอแนะนำแอพพลิเคชั่น ALL PharmaSee ปรึกษาเภสัชกรฟรี ที่สามารถแชทหรือวิดิโอคอล เพื่อรับการปรึกษาจากเภสัชกรที่พร้อมดูแลสุขภาพตลอดเวลาทำการเลยนะคะ แถมยังมีฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมาย มาสุขภาพดี สะดวกทุกที่ ทุกเวลากันนะคะ

All Pharma See

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้อสงสัยโควิด ความรู้ด้านสุขภาพ สินค้าสุขภาพ สูงวัย ยังเก๋า

หยุดยาวนี้อุ่นใจไปกับเอ็กซ์ต้า เที่ยวภาคไหน ต้องเตรียมอะไรไปบ้าง

เที่ยวภาคไหน ต้

ข้อสงสัยโควิด

อาการไอแบบไหน ที่ใช่โควิด

ไอค๊อกไอแค๊ก นี

ข้อสงสัยโควิด ยาและอาหารเสริม สุขภาพแต่ละช่วงวัย สูงวัย ยังเก๋า โภชนาการ

อาหารทางการแพทย์ กับ ผู้ป่วย Long Covid

อาหารทางการแพทย

ข้อสงสัยโควิด สุขภาพแต่ละช่วงวัย

วิธีเตรียมพร้อมก่อนวิ่งมาราธอน

สิ่งแรกที่ควรระ

ข้อสงสัยโควิด สุขภาพแต่ละช่วงวัย

วิธี เลิกบุหรี่ ด้วยตัวเองง่ายๆ ให้เห็นผล

วันที่ 31 พฤษภา